บทความเด่น: ยิ่งกว่าหยาดเหงื่อและแรงบันดาลใจ
นิตยสาร Life ยกย่องเขาว่าเป็นบุคคลหมายเลขหนึ่งแห่งสหัสวรรษ จำนวนสิ่งประดิษฐ์ที่เขาคิดค้นก็น่าทึ่ง – มีถึง 1093 อย่าง เขาถือสิทธิบัตรมากกว่าใครๆ โดยได้รับอย่างน้อยทุกๆ ปีเป็นเวลา 65 ปีติดต่อกัน เขายังได้พัฒนาห้องทดลองค้นคว้าวิจัยสมัยใหม่เขาผู้นี้คือ โธมัส เอดิสัน เมื่อพูดถึงความสามารถของเอดิสัน คนส่วนใหญ่ยกย่องความเป็นอัจฉริยะในการประดิษฐ์ของเขา แต่เขาเองยกย่องการทำงานหนัก เขากล่าวว่า “อัจฉริยะก็คือหยาดเหงื่อ 99% และแรงบันดาลใจ 1%” ผมเองเชื่อว่าความสำเร็จของเอดิสันเป็นผลมาจากปัจจัยที่ 3 ด้วย นั่นก็คือทัศนคติที่ดีของเขา อ่านต่อ...
บทความที่น่าสนใจ The 3rd Birthday ล่าสุดสดๆร้อนๆ / ไทยจ่อเลิกใช้“แบล็คเบอร์รี่” / Code Geass R2 รางวัล การ์ตูนญี่ปุ่น Anime ยอดเยี่ยมปี 2009 / พลิกปูมงบ ส.ส.ในอดีต / ความลับของ Internet / Amazing in Thailand / สุดเซอร์ไพรส์ 6 เรื่องแปลก ผ่าน Facebook ที่คุณต้องอ่าน... / Nielsen รายงาน Android แซง iPhone ได้เป็นครั้งแรก
วันนี้ได้มีโอกาสเขียนเรื่อง iPad ที่ตัวเองใช้งานมาประมาณ 2 เดือนเศษ และก็ได้เห็นมาหลายเดือน จากที่เวลาใช้แล้วมักจะมีคนมาถามว่าดีไหม ทำอะไรได้บ้าง หรือ และก็เคยถึงขนาด นั่งใช้งานอยู่ในห้าง ก็มีคนมาถามว่า netbook นี้ราคาเท่าไร แป๋ว ซะงั้น หรือ Notebook นี้คืออะไร ก็เขียนมาให้ดูกัน ขอใช้คำว่า มันทำอะไรไม่ได้บ้างดีกว่า อิอิ

ผมเป็นคนนึงที่คิดว่าเห็น iPad เป็นรายต้นๆได้ เนื่องจากรุ่นพี่คนหนึ่งเป็นคนชอบเทคโนโลยี่มาก พอออก เขาก็สอยเลย จำได้ว่าครั้งแรกที่เห็นมันก็รู้สึกว่า โห สวยดี ถือแล้วก็เล่นๆๆๆ แล้วก็รู้สึกว่ามันหนัก แล้วก็ไม่มีอะไรเลยว่ะ แต่เพราะส่วนตัวไม่ได้ใช้ iPhone ก็เลื่อนๆๆๆๆ หน้าจอแล้วก็ เออ ไงต่อว่ะ เพราะเราไม่ใช้ iPhone เลยไม่รู้ใน App ของมัน

พอไปถามรุ่นน้องที่อยู่ USA ที่ไปเรียน ป.โท ด้าน IT ที่นั้น เขาก็บอกว่าผมเล่นแล้วพี่ตั้งแต่วันแรก แล้วก็เอาไปคืน ผมก็งง โอ้ใน US สั่งมาแล้วคืนได้ด้วย มันก็บอกว่าเหมือน iPhone ตัวใหญ่พี่ ไม่มีประโยชน์ อ้าวซะงั้น 5555 ก็เลยเลิกสนใจมันไปพักนึง ด้วยค่าตัวมันในประเทศไทยตอนนั้น 4 หมื่นเลย ในการออกมาตอนต้นๆ

คราวนี้ก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวยุโรป ก็ไปฝรั่งเศษ ก็เลยว่า ไปทั้งที ซื้อมาสักตัวสองตัวล่ะกัน เพื่อนก็ฝากซื้อด้วย ไม่ใช้เอง ไปขายก็ได้ว่ะ พอได้ไปร้าน iStudio ที่ฝรั่งเศษ ทราบว่าเป็นเครื่อง Unlock คำนวณเงินไปมา เออ ไม่แพงเลยซื้อมาใช้ดีกว่า อิอิ ราคาตอนนั้นที่ไป ที่ร้านก่ะว่าซื้อ 32G 3G ราคา Euro699 แต่ทะลึ่งจริงๆ ไม่มี 32G มีแต่ 16G และก็ 64G เลย ในความที่เราก็เป็นคน IT ราคาก็ต่างกัน 200 Euro ก็คิดว่าอีกหน่อยมีลูก ก็ต้องมีหนังเยอะแฮะ งั้นก็ 64G เลยล่ะกัน 3G ด้วย ก็เลยโดยมาซะ 799 Euro แล้ว Refund TAX 12% ก็เหลือสัก 700 Euro นิดๆ ตอนนั้น euro อ่อนด้วยก็ 2 หมื่น 8 ได้ประมาณ ก็ ok สอยซะ

เนื่องจากชีวิตประจำวันของผม อยู่กับการ Online ด้วยงานที่ทำ ที่ต้องทำทุกอย่าง Online หมด ไม่ว่าจะเข้าเว็บไซต์ Remote Server Linux , Windows นี่คือกิจวัตรที่ผมทำ และได้ทดสอบแล้วว่า iPad ทำได้

พร่ามมามากล่ะ มาดู Spec มันกัน

ราคา iPad และรุ่น

iPad นั้นแบ่งออกมาเป็นทั้งหมด 2 รุ่นหลักๆคือ Wifi กับ Wifi 3G มีขนาด 3 ขนาดสำหรับทั้ง 2 รุ่นคือ 16G 32G 64G นี่คือราคา US ซึ่งราคา Euro ก็แพงกว่า แต่พอ Refund Tax แล้วก็พอๆกันไม่ต่างกัน

ตัวเครื่อง
เรื่องตัวเครื่องคงไม่ต้องพูดถึงกันมาก เพราะสินค้า Apple นั้นเสมือนแอปเปิ้ลกลางส่วนเอเดนที่ห้ามจับ ห้ามมอง ห้ามต้อง เพราะจะเหมือนต้องมนต์สะกด เรียกได้คำเดียวว่า เนียนจริงๆ แม้กระทั้งช่องใส่ SIM ยังแทบจะไม่เห็น ก็ขนาดก็ 9.7″ มองได้ถนัดตา มีปุ่มอยู่แค่ปุ่มเดียวตรงกลางเหมือน iPhone คือ Home มีปุ่ม Power ด้านบนไว้เปิดเครื่อง พร้อมกับ ปุ่มปรับเพิ่มเสียงด้านข้าง กับปุ่มสำหรับห้าม Rotate หน้าจอ
สำหรับจุดนึงที่ผมชอบคือ คุณสามารถ Cap หน้าจอ iPad ของคุณได้อย่างง่ายดายเพียงกด Power ค้างไว้แล้วกด Home ก็จะเป็นหน้าจอของเครื่องคุณ Save อยู่ใน Picture


Battary
สิ่งนี้คือสิ่งที่ทำให้ Apple iPad ได้เปรียบกว่าคู่แข่งมากมาย เพราะด้วยแบตที่อยู่ได้นานขนาด 10 ชม. เราพบเพียงอุปกรณ์น้อยมากในตระกูล Pad ที่จะอยู่ได้ขนาดนี้ แต่ Galaxy Tab ก็ทำได้ดีขนาด 7 ชม. แต่ก็คงต้องดูการใช้งานจริงว่าทำได้จริงหรือไม่ สำหรับตัวนี้ ผมทดสอบแล้วว่า iPad อยู่ได้นาน 10 ชม จริงๆ เพราะผม Download Software ทิ้งไว้ผ่าน Wifi โดยใช้จนแบตหมดเลย จะกิน 10% สำหรับ 1 ชม อย่างชัดเจน ทำให้คุณเลิกพก Notebook ไปได้เลย เพราะประจำวันเล่นได้ทั้งวันจริงๆ

ใช้ Word/Excel/PowerPoint ได้ไหม ?
นี่เป็นคำถามที่ ทุกคนที่เจอผมต้องถาม บางคนถึงขนาดพูดว่า ถ้ามันใช้ได้นะ ผมซื้อเลย พอผมตอบว่าใช้ได้ ก็ถึงขนาด “งานเข้าล่ะที่นี่” มี Software จำนวนมากบนใน iPad ที่ทำให้คุณอ่าน เขียน แก้ไข File Microsoft Office ของคุณ ตัวอย่างเช่นที่ดังๆคือ Document to Go หรือ QuickOffice ที่ดังๆ แต่จากที่ได้ทดสอบ ภาษาไทยจะใช้งานกับ QuickOffice ได้ แต่สำหรับ Document to Go จะใช้งานไม่ได้ พอพิมพ์ไปได้ พอกลับไปดูอีกทีจะเป็น ???? ทั้งหมด แต่ Document to Go จะใช้ PowerPoint ได้ แต่ QuickOffice ใช้ PowerPoint ไม่ได้นะครับ
การสร้าง File ใหม่ก็สามารถเลือกได้ว่าจะเป็น Word / Excel 2003 หรือ 2007 ยังไม่มี 2010 นะครับ แต่ Office 2010 ก็ยังใช้นามสกุลเดียวกันกับ 2007 อยู่ครับ
สำหรับการใช้งาน Word นั้นก็ ถือว่า OK เพราะมันคือการพิมพ์งานเอกสารไม่มีอะไร แต่สำหรับ Excel นั้นก็สามารถใช้สูตรทางคณิตศาสตร์ได้หมด เพียงแต่จะไม่สะดวกเท่าไร เพราะปกติเวลาเราทำสูตร เรามักจะพิมพ์ = แล้วเราก็เลือก cell ใช่ไหมครับ แต่ถ้าบน iPad พอเรากดที่ cell มันก็ย้าย cell ให้เราเลย ก็ถือว่าไม่สะดวก ต้องมาพิมพ์​ A5 B2 C3 อะไรพวกนี้เอง ก็เหนื่อยดี แต่ก็ถือว่าแก้ขัดได้


File งาน Google Docs ใช้งานได้ไหม?
ใช้งานได้แน่นอน โดยใช้ QuickOffice นี่แหละ ก็สามารถสั่งดูด File Google Docs มาได้เลย แก้ไขได้ด้วย แต่การแก้ไขไม่ค่อย Work เท่าไร มันมักจะบอกว่า Fail แต่จริงๆมันแก้ไปแล้ว และสีที่เราทำมามันก็จะไม่ดูดมาไม่ตรงสักทีเดียว แต่ก็พอถูไถดูไปได้ แก้ขัด


การโยน File ทำไง?
การโยน File เข้า iPad ทำได้ 3 ทางด้วยกัน คือ 1. โยนผ่าน iTune 2. โยนผ่าน Wifi โดยใช้ iFiles หรือโปรแกรมอ่าน Document ทั่วๆไป มักจะมี Service Wifi มาทางโปรแกรม มันก็จะให้ URL เรามาเข้าเช่น http://192.168.1.30:8080 เราก็เอา URL นี้ไปพิมพ์ที่คอมของเรา มันก็จะโผล่ Folder ตามโปรแกรมนั้นๆมีอยู่ ก็สั่ง Upload / Download ได้ตามสะดวก จะนามสกุลอะไรก็ได้ ถ้าเป็น VDO ก็แนะนำว่าถ้า MP3 ก็อ่านได้เลยแต่ถ้านามสกุลอื่นๆพวก VOB ของ DVD ก็ต้องใช้โปรแกรมอื่นอ่านมัน แต่ผมยังไม่เคยลองเอา DVD มาลง แต่ลงโปรแกรมอ่าน DVD ไว้แล้ว
วิธีสุดท้ายสำหรับ Hiso ทำกันก็คือซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงที่ขายอยู่ พันกว่าบาท เป็นช่องเสียบที่เดียวกับที่ Charge แล้วก้นของมันเป็น USB อันนึง อีกอันมาเป็น Pack คู่เป็น SDCard ก็จะใส่อะไรก็ใส่ไปเลยตามสบาย แต่ข้อควรระหว่าง ใส่ได้แต่ ThumbDrive นะครับ External Disk ไม่ได้นะ เพราะไฟไม่พอ และสำคัญจะได้สมบูรณ์ที่ไม่ใช่ภาพ เครื่องต้อง Jailbreak แล้วเท่านั้น

Download File จากเน็ตได้ไหม?
ได้แน่นอน เราสามารถใช้โปรแกรม iDownload สั่ง Download File ที่เราต้องการจาก Internet พอเราจะเปิดมันก็จะไปหาโปรแกรมต่างๆในเครื่องเราที่อ่าน File นั้นได้มาเปิดนั้นเอง

PDF อ่านได้ไหม?
อันนี้สบายมาก โปรแกรมที่ผมกล่าวมาก่อนหน้านี้แทบทั้งหมดอ่าน PDF ได้ ทั้ง QuickOffice , PDF Reader , ReaddleDocs มีเยอะมากที่อ่าน PDF ได้ บางโปรแกรมสร้างได้ด้วยอีกต่างหาก

ต่อออก Projector ได้ไหม
อันนี้ก็สบายมาก แต่เสียตังค์ เพราะต้องซื้อ Port เพิ่ม คือสายแบบ Transfer File นั้นแหละ เสียบก้นแล้วจะออกมาเป็น VGA Port แล้วก็เสียบต่อได้เลย แต่โปรแกรมที่ใช้ต้องรองรับด้วยนะครับ ส่วนใหญ่ก็มักต่อกับ Keynote นั้นเอง

ตัดต่อภาพก็ยังได้
อันนี้เป็นสิ่งที่ผมชอบมากในการใช้เขียนบทความ เพราะเราสามารถตัดต่อภาพเล็กๆน้อยได้ ผ่าน Photoshop Express ซึ่งจะทำง่ายๆ เช่น เบล่อภาพ Crop ภาพ หรือ Rotate ภาพ อะไรง่ายๆ แต่ก็มีประโยชน์มากจริงๆ

Remote PC ได้ง่ายดาย
สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมก็ใช้คือ เราตั้ง PC เราเปิดทิ้งไว้ที่ Office แล้วเปิด Teamviewer ไว้ เราสามารถเอา iPad เราไปสั่งงานเครื่อง PC ของเราได้ อิอิ แต่ดูด File นั้นผมยังไม่เคยใช้ Teamviewer for iPad Version เต็มเลย เพราะมันแพงมาก ระดับร้อยกว่าเหรียญเลย เลยไม่แน่ใจว่ามันดึง File มาได้ด้วยไหม
หรือถ้าคุณมี VitualPC ที่มี IP เฉพาะเจาะจง ก็ใช้ RDP Remote เข้าไปทำงานได้เลย ผมใช้อยู่สุดยอดมากๆ

Program Chat มีไหม
ไม่ต้องพูดถึงโปรแกรม Chat เพียบ แต่ตัวที่ผมใช้คือ IM+ เป็นตัวที่ทำให้คุณ Online Chat ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะ MSN ,Yahoo ,AOL มากมาย โดยเฉพาะ Facebook Chat อิอิ ที่ผมชอบมาก เพราะมัน Online เฉพาะ Facebook Chat ได้

ข้อเสียของ iPad คือ
1. Software ส่วนใหญ่ที่ดีๆ จะเสียตังค์ ของฟรี จะมีแบบ Limit คือใช้ได้จำกัด แต่แก้ไขด้วยการ Jailbreak ซะ
2. ภาษาไทยไม่ดี สำหรับคนที่ไม่ได้ Jailbreak แต่ดีสมบูรณ์ 99% สำหรับคนที่ Jailbreak แล้ว
3. ไม่มีระบบ Folder ดังนั้น ถ้าคุณใช้โปรแกรมอ่าน Document ต้องเลือกสักโปรแกรม ไม่งั้น File เดียวของคุณจะอยู่บนทุกโปรแกรม เพราะแต่ละโปรแกรมมีระบบ File ของตัวเอง
4. หน้าจอใสปิ้ง สวยสด แต่ก็ทำให้ยากในการดูบนที่ที่มีแดด หรืออ่านหนังสือในที่ที่มีแดด ก็อาจจะไม่สบายตาเท่าไร
5. ทำงานแบบ single task ทำให้เวลาออกจากโปรแกรมใดที่ทำงานอยู่เพื่อไปเปิดอีกโปรแกรม ก็จะปิดตัวเอง แต่ปัญหานี้หายไปใน พฤศจิกายนเมื่อ iOS 4.2 สำหรับ iPad ออกมา เย้ เย้
6. จัด Folder ไม่ได้ ทำให้เวลามีโปรแกรมเยอะต้องจัดหน้าดีๆ มีหลายหน้า การโยกโปรแกรมก็โยกได้ทีละโปรแกรม ทำให้เหนื่อยในการจัดนิดนึง แต่ปัญหานี้หายไปในพฤศจิกายน iOS 4.2 สร้าง Folder ได้และย้ายได้ทีละหลาย Program
7. งาน Print ยังทำไม่ได้ แต่ก็นั้นแหละหายไปใน iOS 4.2 จะทำให้ Print ได้ผ่าน Network Printer โดยเลือก Printer ได้หลายตัวด้วย ถ้าเรามีเยอะๆ
8. มีเวลาให้ครอบครัวน้อยลง เพราะมัวแต่ติด iPad อิอิ อันนี้ขำๆนะครับ

ก็ขอจบ Review ไว้แค่นี้ก่อน แล้วจะมา Review App แบบเจาะลึกแต่ละตัวมาให้ดูว่าแต่ละ App นั้นมีอะไรบ้างที่เด็ดๆ และใช้ได้จริงในงาน ในชีวิตส่วนตัว

ที่มา : 7boot






0 Response to '[Review] เจาะลึก iPad จากการใช้งานจริง'

แสดงความคิดเห็น

Categories