บทความเด่น: ยิ่งกว่าหยาดเหงื่อและแรงบันดาลใจ
นิตยสาร Life ยกย่องเขาว่าเป็นบุคคลหมายเลขหนึ่งแห่งสหัสวรรษ จำนวนสิ่งประดิษฐ์ที่เขาคิดค้นก็น่าทึ่ง – มีถึง 1093 อย่าง เขาถือสิทธิบัตรมากกว่าใครๆ โดยได้รับอย่างน้อยทุกๆ ปีเป็นเวลา 65 ปีติดต่อกัน เขายังได้พัฒนาห้องทดลองค้นคว้าวิจัยสมัยใหม่เขาผู้นี้คือ โธมัส เอดิสัน เมื่อพูดถึงความสามารถของเอดิสัน คนส่วนใหญ่ยกย่องความเป็นอัจฉริยะในการประดิษฐ์ของเขา แต่เขาเองยกย่องการทำงานหนัก เขากล่าวว่า “อัจฉริยะก็คือหยาดเหงื่อ 99% และแรงบันดาลใจ 1%” ผมเองเชื่อว่าความสำเร็จของเอดิสันเป็นผลมาจากปัจจัยที่ 3 ด้วย นั่นก็คือทัศนคติที่ดีของเขา อ่านต่อ...
บทความที่น่าสนใจ The 3rd Birthday ล่าสุดสดๆร้อนๆ / ไทยจ่อเลิกใช้“แบล็คเบอร์รี่” / Code Geass R2 รางวัล การ์ตูนญี่ปุ่น Anime ยอดเยี่ยมปี 2009 / พลิกปูมงบ ส.ส.ในอดีต / ความลับของ Internet / Amazing in Thailand / สุดเซอร์ไพรส์ 6 เรื่องแปลก ผ่าน Facebook ที่คุณต้องอ่าน... / Nielsen รายงาน Android แซง iPhone ได้เป็นครั้งแรก
คุณเคยทานแฮมเบอร์เกอร์ที่อร่อยกว่าแม็คโดนัลด์ไหม?
ถ้าเคย... ทำไมแมคโดนัลด์จึงขายดีกว่าแฮมเบอร์เกอร์พวกนั้น!!!

คำตอบนั้นแน่นอน เพราะแมคโดนัลด์มีวิธีคิดที่แตกต่างจากคนพวกนั้น คนส่วนใหญ่มุ่งแต่จะฝึกฝนทำแฮมเบอร์เกอร์ โดยไม่สนใจวิธีการขายและส่งแฮมเบอร์เกอร์ "แม็คโดนัลด์อาจไม่ใช่คนทำแฮมเบอร์เกอร์ที่อร่อยที่สุด แต่เขาเป็นคนขายแฮมเบอร์เกอร์รสชาติธรรมดาที่เก่งที่สุด"

นี่คิดความแตกต่างของความคิด คนส่วนมากเก่งแต่จน หรือมีรายได้น้อยกว่าความสามารถที่มีมากนัก เพราะอะไร? พวกเขาถูกจำกัดหรือถูกหล่อหลอมให้อยู่ในกรอบเดียวกันหมด ถ้ายังไม่เข้าใจผมมีคลิปขำๆ มาเพื่อนๆ ดูกัน




ชีวิตของคุณเป็นอย่างนี้หรือเปล่า จริงหรือไม่ที่เรามักจะยึดความคิดที่ว่า "ตั้งใจเรียน ทำงานหนักเข้าไว้ เดี๋ยวก็ได้ตำแหน่ง เดี๋ยวก็เงินเดือนขึ้น" และเราก็ทำงานหนัก ใจจดจ่อรอวันเงินเดือนออก แต่ใช้ไม่เคยพอ และไม่รวยสักที รอโอกาสที่จะโชคดีถูกรางวัลสักครั้ง ผมอดสงสัยไม่ได้ว่า "ลูกจ้างทั้งหลายเคยมองอนาคตที่ไกลกว่าวันเงินเดือนออกหรือไม่"

ถ้าคุณเป็นอย่างนี้ ผมขอบอกว่าคุณคิดผิด และอยากจะบอกวิธีคิดใหม่ให้คุณฟังคือ คุณต้องคิดไม่เหมือนคนทั่วไป ถ้าคนทั่วไปในสังคมเป็นคนจนหรือฐานะปานกลาง คุณจะคิดเหมือนคนทั่วไปหรือ?

สิ่งแรก ผมอยากบอกให้คุณรู้ว่า "คนรวยเพิ่มทรัพย์สิน คนจนและชนชั้นกลางเพิ่มหนี้สิน โดยคิดไปว่ามันคือทรัพย์สิน" เพราะคนส่วนมากไม่รู้ว่าทรัพย์สินและหนี้สินและแตกต่างกันอย่างไรนะซิ ผมสรุปให้ฟังง่ายๆ ดังนี้ว่า

ทรัพย์สินคือ เงินใส่กระเป๋า หนี้สิน คือ เงินออกกระเป๋า

ตัวอย่างของหนี้สินที่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า มันคือ ทรัพย์สิน เช่น รถยนต์ ที่ทันทีที่ขับออกมาจากโชว์รูมราคาก็ตกลงไปแล้ว 30% หรือ บ้าน ที่คุณต้องติดกับเหมือนติดกับดักหนู ผ่อนบ้านไปชั่วชีวิต ไม่มีโอกาสนำเงินไปทำให้มันทวีคูณ ทีนี้คุณเข้าใจหรือยังครับว่า ลูกจ้างส่วนใหญ่ทำเงินเดือนหรือรูดบัตรเครดิตเพื่อไปซื้อที่หนี้สินที่ทำให้เขาเป็นเหมือนคนรวยในสายตาคนอื่นๆ แต่เขาต้องติดกับของมันชั่วชีวิต

แต่คนรวยจะเอาเงินไปซื้อทรัพย์สินก่อน เพื่อไปซื้อหนี้สินในภายหลัง ตัวอย่างของทรัพย์สินเช่นอะไรบ้าง เช่น ธุรกิจที่ไม่ต้องนั่งเฝ้า, หุ้น, กองทุนรวม หรืออสังหาริมทรัพย์

คุณฟังแล้ว อาจจะบอกว่า สิ่งเหล่านี้คุณรู้จักอยู่แล้ว ใช่ครับ คุณอาจจะรู้จักมันดีอยู่ แต่ถามว่าจะมีสักกี่คนที่เริ่มต้น จริงจังกับมัน ส่วนใหญ่จะบอกว่า ไม่มีเงินทุน รอแต่โอกาสที่ไม่รู้จะมาถึงหรือเปล่า

แต่วันนี้ผมอยากบอก โลกเราทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงจนเราตามแทบไม่ทัน แต่สิ่งหนึ่งที่มีบทบาทอย่างมากในชีวิตของคนคือ Internet และ ณ วันนี้ โลกออนไลน์สามารถทำให้คุณมีธุรกิจของคุณเองได้ และสำคัณที่สุดมันเป็น World wide ที่สร้างธุรกิจไปได้ทั่วโลก แม้คุณไม่มีเงินทุน ขอเพียงคุณมีคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เนตเท่าันั้น

ถ้าคุณไม่เคยสร้่างธุรกิจออนไลน์ ผมอยากแนะนำให้คุณเริ่มต้นกับ 21millionaire ที่จะช่วยคุณสร้างธุรกิจของคุณเอง โดยทาง 21millionaire การันตีรายได้ที่ 50,000 บาทต่อเดือน ภายใน 1 ปีถ้าคุณทำธุรกิจอย่างจริงจัง

ผมอยากให้คุณชมคลิปด้านล่างนี้จนจบก่อนนะครับ จะเป็นประโยชน์ต่อคุณมากๆ และขอบคุณที่อ่านบทความนี้นะครับ









0 Response to 'เคยมองอนาคตที่ไกลกว่าวันเงินเดือนออกหรือไม่?'

แสดงความคิดเห็น

Categories